วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2556

หน้าที่หลักของกลูต้าไธโอนคือ

หน้าที่หลักของกลูต้าไธโอนคือ
  1. ล้างสารพิษ เนื่องจากกลูต้าไธโอนะเข้าไปช่วยสร้างเอ็นไซม์ภายในร่างกาย เพื่อช่วยล้างสารพิษโดยการเข้าไปตรวจจับสารพิษชนิดไม่ละลายน้ำ แต่ละลายในไขมัน เช่น โลหะหนัก สารระเหย ยากำจัดศัตรูพืช อีกทั้งยังช่วยป้องกันตับจากการถูกทำลายของแอลกอฮอล์บุหรี่ ยาพาราเซตามอล
  2. ต้านปฏิกิริยาออซิเดชั่นภายในร่างกาย
  3. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย โดยเป็นส่วนกระตุ้นของเอ็นไซม์ที่มีส่วนต่อต้านสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย รวมทั้งเชื้อแบคทีเรีย และไวรัส โดยหน้าที่ของระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายได้แก่ ช่วยปกป้องร่างกายจากอนุมูลอิสระ, กำจัดสารนิโคติน, เสริมสร้างการทำงานของตับให้ดีขึ้น และยังช่วยเพิ่มปริมาณสารอสุจอีกด้วย

ซึ่งสารต่างๆที่ร่างกายขาดหรือบกพร่อมไปจำเป็นต้องได้รับการเสริมสร้างขึ้นมาใหม่ ทั้งนี้อาจใช้เทคนิคทางการแพทย์ด้วยการใช้กลูต้าแบบฉีดฉีดเข้าไปภายในร่างกายซึ่งสามารถทำได้ 2 วิธี ได้แก่การฉีดกลูต้าแบบฉีดเข้าทางเว้นเลือดดำและกร้ามเนื้อ หรือรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น พืชผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์

หากร่างกายขาดสารกลูต้าไธโอนแล้ว จะทำให้เกิดสุขภาพร่างกายเสื่อมโทรม เกิดเป็นโรคตับ เบาหวาน ความดัน ต้อหิน มะเร็ง หรือเอดส์นั้นเป็นเพราะร่างกายขาดภูมิคุ้มกัน

วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2556

กระเพาะปัสสาวะอักเสบตรวจพบกับผู้หญิงมากว่าผู้ชาย!!

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ผู้หญิงมักจะพบปัญหาเรื่องระบบการขับถ่ายปัสสาวะมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากผู้ชายนั้นมีท่อปัสสาวะที่ยาวกว่าผู้หญิง ซึ่งโอกาสที่เชื้อแบคที่เรียจะเข้าไปแพร่กระจายเข้าสู่ท่อปัสสาวะจึงมีมากกว่า ทำให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ และยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงเป็นโรคนี้มากกว่าผู้ชาย เช่น

  •     การกลั่นปัสสาวะ
  •     การดื่มน้ำน้อย ไม่เพียงพอที่จะไปขับเอาเชื่อแบคทีเรียให้ออกมาพร้อมน้ำปัสสาวะได้
  •     การเคลื่อนไหวของร่างกายน้อย
  •     อาการเคร่งเครียดขณะทำงาน หรืออื่นๆ
  •     ความอับชื่นที่อาจเกิดจากการหมักหมมของอวัยวะเพศ
  •     การมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งทั้งก่อนและหลังควรขับถ่ายปัสสาวะให้เรียบร้อยป้องกันการติดเชื้อ
  •     การตั้งครรภ์ ซึ่งผู้หญิงที่มีอายุครรภ์อยู่ระหว่าง 2-3 เดือนแรก จะมีโอกาสเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้มาก ซึ่งคุณแม่ที่มีอาการเสี่ยงควรรีบเข้าพบแพทย์ เพื่อเข้ารับการตรวจและวินิจฉัยเพื่อทำการรักษาให้หายขาดโดยเร็วที่สุด หากปล่อยทิ้งไว้จะส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของไตได้ เช่นกรวยไตอักเสบ หรือเป็นโรคไตซึ่งในบางรายไตอาจไม่สามารถทำงานได้เป็นการถาวร

วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2556

ชนิดของผ้าปิดจมูกและการป้องกัน


ผ้าปิดจมูกแบบเยื่อกระดาษ 3 ชั้น

ผ้าปิดจมูกที่ผลิตจากผ้าฝ้าย
        
ผ้าปิดจมูกที่นิยมใช้ในปัจจุบัน มีอยู่ 3 ชนิด และมีคุณสมบัติในการป้องกัน ดังนี้
  1. ผ้าปิดจมูกแบบเยื่อกระดาษ 3 ชั้น สามารถป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคจากการไอหรือจามได้ สามารป้องกันเชื้อแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นผ้าปิดจมูกชนิดใช้แล้วทิ้ง ไม่ควรนำกลับมาใช้ซ้ำ
  2. ผ้าปิดจมูกที่ผลิตจากผ้าฝ้าย สามารถช่วยป้องกันฝุ่นละออง และการกระจายของน้ำมูกหรือน้ำลายจากการไอจาม ผ้าปิดจมูกชนิดนี้สามารถซักทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้
  3. หน้ากากอนามัยชนิด N95 เป็นชนิดที่สามารถป้องกันเชื้อโรคได้ดีเพราะป้องกันได้ทั้งฝุ่นละอองและเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กได้ หน้ากากชนิดนี้มีอายุการใช้งานนานประมาณ 3 สัปดาห์ สำหรับผู้ใช้บางรายอาจรู้สึกอึดอัดเวลาสวมใส่ เพราะวัสดุที่ใช้ในการกรองอากาศนั้นมีความละเอียดสูง
           ดังนี้การเลือกใช้ผ้าปิดจมูกอย่างถูกวิธีแล้วตรงกับลักษณะการใช้งานนั้น จะทำให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโรค หรือฝุ่นละอองได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

ชนิดของถุงมือมีชนิดใดบ้าง

         การเลือกใช้ถุงมืออย่างถูกวิธีนั้นเป็นสิ่งที่คุณจะต้องคำนึงเป็นพิเศษ เนื่องจากการปฏิบัติงานแต่ละอย่างมีความแตกต่างกันไปดังนั้นการเลือกใช้อุปกรณ์เพื่อป้องกันก็ย่อมต่างเช่นกัน ชนิดของถุงมือที่ต้องเลือกใช้ตามให้ถูกต้องมีดังนี้
  • ถุงมือยางไนไตรสีฟ้า มีลักษณะเนื้อหนา ผิวหยาบ กันการลื่นได้ดี ถุงมือชนิดนี้เหมาะกับงานอาหาร งานยานยต์ งานอิเลคทรอนิค และงานทั่วไป สามรถสัมผัสอาหาร, น้ำมันหล่อลื่นต่างๆ ได้
  • ถุงมือแพทย์โปรเจน เป็นถุงมือยางแท้ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ถุงมือชนิดนี้มีลักษณะเนื้อหนา มีแป้ง เหมาะกับงานยานยนต์ อาหาร กุ๊ก คลินิค โรงพยาบาล โรงแรม 
  • ถุงมือยางไม่มีแป้ง  มีลักษณะผิวหยาบ เนื้อหนา ทนการใช้งานได้เป็นอย่างดี เหมาะกับงานยานยนต์ อาหาร รปภ. โรงแรม กุ๊ก ร้านเสริมสวย งานเกษตร งานอุตสาหกรรมทุกประเภท 
  • ถุงมือพลาสติกฟู้ดส์เกรดใช้สัมผัสอาหารได้ เหมาะกับกับงานอาหาร
  • ถุงมือผ้าทีซี  มีลักษระผ้าหนา สวมใส่ง่าย เหมาะกับงานยานยนต์ งานอิเลคทรอนิค และงานทั่วไป

โรค GPC หรือการแพ้คอนแทคเลนส์

            ภาวะการแพ้คอนแทคเลนส์หรือทางการแพทย์เรียกว่า โรค GPC (Giant Papillary Conjunctivitis) เป็นโรคภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นกับดวงตา ซึ่งส่วนใหญ่พบได้กับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ชนิดถาวร อาการแพ้จะเกิดจากเลนส์ไม่สะอาด มีคราบโปรตีนติดอยู่และเมื่อมีการสะสมมากขึ้นและรวมกัน ฝุ่นละออง เครื่องสำอาง จะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุตา

ผู้ที่เป็นโรค GPC จะมีอาการอย่างไร
  1. มีอาการคันตา และระคายเคือง
  2. มีขี้ตาเป็นเมือกขา
  3. มีอาการตาแดงเรื่อๆ 
  4. เมื่อใส่คอนแทคเลนส์>แล้วรู้สึกไม่สบายตา
  5. มีเม็ดเล็กๆ ที่เยื่อบุตาบริเวณด้านในของเปลือกตา ซึ่งนั้นคือสัญญานของการเกิดภูมิแพ้ที่ดวงตา
การรักษาอาการแพ้ในโรค GPC 
  1. หยุดใส่คอนแทคเลนส์ไว้ชั่วคราว
  2. หายาแก้แพ้มาหยอดตา
  3. รักษาความสะอาดกำจัดความสกปรกของคอนแทคเลนส์อย่างสม่ำเสมอให้ถูกต้อง
  4. เปลี่ยนมาใช้คอนแทคเลนส์ชนิดเปลี่ยนทุก 2-4 สัปดาห์